ประวัติท้าวหิรัญฮูพนาสูรย์
(ฮู)
ถ้าท่าน ได้เดินทางเข้าไปภายในรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
หรือพระราชวังพญาไทเดิม ซึ่งสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.6) อาคารต่างๆล้วนแล้วแต่สร้างเป็นแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก ที่ได้แผ่อิทธิพลเข้ามาในช่วงเวลาสมัยนั้น
ทำให้ดูโดดเด่นสง่างาม ทันสมัยตั้งแต่ครั้งอดีตจวบกระทั่งปัจจุบันนี้ก็ตาม
แต่เชื่อหรือไม่ว่าภายในโรงพยาลาลพระมงกุฎเกล้า หรือพระราชวังเดิมแห่งนี้
เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่พึ่งทางใจของบรรดาคนไข้ในโรงพยาบาล
และประชาชนที่เดือดเนื้อร้อนใจนั่นคือ ศาลท้าวหิรัญฮูพนาสูรย์
(ฮู) อสูรผู้พิทักษ์รักษาขจัดเภทภัยทั้งปวง
ปฐมเหตุของการสร้างรูปท้าวหิรัญฮูพนาสูรย์
(ฮู) นั้น สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชการที่ 6) โดยมีเรื่องอยู่ว่า เมื่อปี พ.ศ. 2449 ในระหว่างที่พระองค์ยังมิได้เถลิงถวัลย์ราชสมบัติ
ยังดำรงพระอิสริยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมงกุฎราชกุมาร
พระองค์ได้เสด็จประภาสมณฑลพาชัย ไปเมืองสวรรค์โลก และได้ผ่านไปเมืองอุตรดิตถ์
ซึ่งในสมัยนั้นยังมีสภาพเป็นป่าดงดิบ
ปรากฏว่าบรรดาผู้ติดตามเสด็จพระราชดำเนินมีความหวาดกลัวเภทภัยต่างๆ
รวมทั้งไข้ป่าที่จะเกิดขึ้น เมื่อถึงเวลาประทับบรรดาข้าราชบริพารต่างๆ
ก็ช่วยกันจัดสร้างพลับพลาขึ้น เพื่อเป็นที่ประทับส่วนพระองค์
และในคืนนั้นเองในพลับพลา ที่ประทับพระองค์ได้ทรงพระสุบินนิมิตไปว่า
ได้มีชายผู้หนึ่งมีร่างกายกำยำใหญ่โต ผิวกายคล้ำ นุ่งผ้าเกี้ยว มีลายเชิงสีแดง
คาดรัดเอว มีอาภรณ์ประดับ ที่ตัวไม่ได้สวมเสื้อ แต่สวมชฎา เดินเข้ามาหาพระองค์อย่างสง่าผ่าเผยแต่เต็มไปด้วยความอ่อนน้อม
ชายผู้นั้นได้เดินมาหยุดยืนอยู่ตรงปลายพระบรรทมแล้วกราบทูลว่า ตนเองนั้นมีนามว่า
ฮู เป็นอสูรชาวป่าที่ยึดมั่นในสัมมาปฏิบัติมีความศรัทธาในพระองค์
จะขอเป็นข้าราชบริพาร
และขอติดตามเสด็จไปทุกหนทุกแห่งเพื่อพิทักษ์รักษาแทบเบื้องยุคคลบาทมิให้ภัยตรายทั้งปวง กล้ำกลายพระองค์
และได้กราบทูลต่อไปว่าพระผู้เป็นเจ้าในสรวงสวรรค์ได้ใช้ให้ข้าพระพุทธเจ้ามาอยู่ประจำพระองค์
เพราะทรงทราบว่าในสมัยของพระองค์ต้องฟันฝ่าต่อเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศมากมาย
และได้กราบทูลถึงวิธีการที่พระองค์จะปฎิบัติต่อตนเองโดยไม่ต้องมีอะไรยุ่งยาก
แต่โปรดพระราชทานสถานที่เฉพาะให้คนและให้บริโภคพระกระยาหารอย่างเดียว
โดยที่พระองค์เสวยอยู่เป็นประจำเท่านั้น เมื่อได้ฟังดังนั้นแล้ว พระองค์ทรงรับสนอง พระบรมราชโองการของเทวะรับอสูรมาเป็นข้าราชบริพาร
ครั้นรุ่งเข้าจึงมีพระราชดำรัสสั่งให้จัดธูปเทียน
และเครื่องโภชนาการไปเซ่นสังเวยริมพลับพลาที่ประทับในป่า และในเวลาเสวยค่ำ ทุกๆวัน
ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แบ่งพระกระยาหารจากเครื่องต้นไปเซ่นสรวงเสมอๆ ปรากฎว่าบรรดาข้าราชบริพารทั้งหลายไม่มีผู้ใดเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยจากไข้ป่าแต่อย่างใด
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีความล้มป่วยกันหลายคน
ส่วนผู้ที่ล้มป่วยเจ็บไข้อาการหนักก็หายเป็นปลิดทิ้ง อย่างมหัศจรรย์ยิ่ง
นอกจากนี้ยังมีผู้อ้างว่าได้แลเห็นชายร่างกายสูงใหญ่แต่งกายประหลาด
นั่งบ้างยืนบ้างอยู่ใกล้ๆ ที่ประทับหรือตามโคนต้นไม้ในระหว่างที่เสด็จประพาสตามที่ต่างๆ
ซึ่งไม่ได้เห็นแค่คนเดียวเท่านั้น แต่ได้เห็นพร้อมกันตั้งหลายคนก็มี
คั้นใน พ.ศ. 2453 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเหล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ
พระองค์ได้ทรงคำนึงถึงท้าวฮู อสูรผู้พิทักษ์รักษา ดังนั้นพระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้ช่างหล่อรูปทำท้าวฮูเป็นเนื้อสำริด
ขนาดเล็กสูง 20 ซม. ขึ้น 4 รูป เสร็จบริบูรณ์เมื่อเดือนเมษายน 2454
โดยท้าวหิรัญพนาสูรย์ที่ทรงสร้างข้นนี้ทำเป็นรูปคนยืน สวมชฎาทรงเทริดอย่างไทยโปราณ
และที่มือขวาถือไม้ท้าวเป็นเครื่องประดับยศ
จากนั้นได้ทรงรับสั่งให้เจ้าพนักงาน จัดเครื่องสังเวยเซ่นไหว้ทุกรูป
พระองค์ได้ทรงนำรูปหล่อท้าวหิรัญพนาสูรย์นี้แยกย้ายไปประดิษฐานที่ต่างๆ
คือ ไปประดิษฐานไว้ที่หน้ารถยนต์พระที่นั่ง
เนเปีย ประดิษฐานไว้ข้างพระที่นั่งในห้องบรรทม
(ในเวลาต่อมารูปหล่อท้าวหิรัญ ฮู ได้ตกทอดไปอยู่หลายคน
จนในที่สุดได้ถูกนำมาประดิษฐานไว้ให้คนไข้สักการะบูชาไว้บนศาลเพียงตาเล็กๆ
ตั้งอยู่บริเวณตึงรังสีหรือตึกพระที่นั่งอุดมวนาภรณ์เดิม)
ต่อมาภายหลังได้มีการสร้างพระราชวังพญาไทขึ้น
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระราชดำริที่จะให้มีการตั้งศาลเทพารักษ์
และต้องการให้ท้าวหิรัญพนาสูรย์ เป็นเทพารักษ์ประจำวังพญาไท
พระองค์ได้ทรงระลึกถึงนายดาบมหาดเล็กรักษาพระองค์ที่มีร่างกายกำยำสูงใหญ่แข็งแรง
จึงโปรดเกล้าฯให้นำตัวนายดาบไปให้พระยาอาทรจรศิลป์ (ม.ล.ช่วง กุญชร)
ศาลท้าวหิรัญฮูพนาสูรย์
นะโม
ตัสสะ ภะคะวะโต อาระหะโต สัมมา สัมพุธธัสสะ (สวด 3 จบ)
คาถาบูชาท้าวหิรัญฮูพนาสูรย์
(เทพอสูรดงพญาเย็น) จุดธูป 16 ดอก
ระหินะ
ภูมาสี ภะระติ นิรันตะรัง ลาภะสุขัง ภะวันตุเม (สวด 9 จบ)
ผู้ใดสวดบูชาประจำ
ป้องกันภัย มีโชคลาภ ค้าขายดี มีอำนาจ หายจากโรคภัยไข้เจ็บ ร่มเย็นเป็นสุขตลอดกาลฯ
(เมื่อท่านสำเร็จผลควรถวายสังฆทานอุทิศให้ท้าวหิรัญฮูพนาสูรย์)
สิ่งที่ควรถวายหิรัญฮูพนาสูรย์
บายศรีพรหม บายศรีเทพ บายศรีปากชาม หมูหนาม (ขนุน) มะพร้าวอ่อน 2 ลูก
กล้วยน้ำว้า 1 หวี
ดาวเรือง 9 พวง สัปปะรด 1 ลูก
ศาลท้าวหิรัญฮูพนาสูรย์
ตั้งอยู่หลังโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า กรุงเทพมหานคร
พระคาถาบูชา พ่อ ร.5 (ธูป 9 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ)
พระสยามมิน ทะโร
วะโร อัตตัง พุทธะสังมิ ทิติ อรหัง
ปิโย พรหมานะ
มุตตะโม ปินัน ทริยัง นะมามิหัง
สมัยนี้เปากาลิยุค ณ วัดศิริประสุประดินาถ
เมืองกัดมันดุ ประเทศเนปาล ณ ที่พระพุทธเจ้าประสูตินั้นเอง
ที่วัดศิริประสุประดินาถ มีสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้เกิดขึ้น
วันหนึ่งในโบสถ์ของวัดศิริประสุประดินาถ ได้มีหลวงพ่อองค์หนึ่งได้สวดมนต์อยู่ในโบสถ์ของวัด
ในเวลานั้นมีงูตัวหนึ่งได้เลื้อยออกมาจากหน้าพระพุทธณูปในโบสถ์
หลวงพ่อได้เห็นงูตัวนั้นก็เกิดอาการกลัว หลังจากนั้นงูก็ได้กลายเป็นมนุษย์ในรูปของพราหมณ์
แล้วก็พูดกับหลวงพ่อว่า เจ้าไม่ต้องกลัวและตกใจ เจ้าจงฟังข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าคือพญานาคราช และได้มาจุติ ณ ที่แห่งนี้
เพื่อบำบัดปัดเป่าความชั่วร้ายและคนบาปคนที่กระทำกรรมไว้มาก จะให้พินาศตายไปจากโลกนี้
และเจ้าจงประกาศให้คนรู้ทั่วไปว่า ผู้ใดนำเรื่องของข้าพเจ้าไปพิมพ์แจก 1,000 ใบ ภายใน
15-30 วัน มันผู้นั้นจักมีโชคลาภ มีความสุข ความเจริญ
คิดสิ่งใดสมความปรารถนาทุกประการ
และผู้ใดได้รู้ได้อ่านอย่างคิดว่าเป็นการหลอกลวงหรือไม่เชื่อ และผู้ใดคิดพิมพ์แจก อย่างคิดพิมพ์ผลัดวันประกันพรุ่ง
(หรือเก็บไว้สวดมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว)
จากนั้น
หลวงพ่อองค์นั้นก็ได้พิมพ์แจก 1,000 ใบ
หลักจากนั้น 3-4 วันเท่านั้น ท่านสำเร็จวิชาต่างๆ คุณโกบิน ประสาทศุปตา ได้พิมพ์แจก 1,000 ใบ
เขาก็ได้เงินได้ทองที่ผู้คนหยิบยืมเขาไปมาคืน อีกรายหนึ่งก็พิมพ์แจก 500 ใบ
เขาก็ถูกล็อตเตอรี่ 1 ล้านบาท อีกรายหนึ่งคนถีบสามล้อ
ก็พิมพ์แจก 3-4 วัน เขาก็หางานทำได้เป็นงานที่ดี และอีกรายได้อ่านได้รู้ก็ไม่เชื่อเลยฉีกทิ้ง
หลังจากนั้นได้ประมาณ 2-3 วัน ลูกเขาก็ตาย
อีกรายหนึ่งได้รู้ได้อ่านแล้วคิดพิมพ์แจก
แต่ผลัดวันประกันพรุ่งจนเลยกำหนดผู้นั้นเป็นพ่อค้า ทำการค้าก็ขายทุนแล้วพ่อเขาก็มาตายจากไปอีกด้วย และอีกรายหนึ่งก็พิมพ์จาก 1,000 ใบ
ไม่กี่วันเขาก็มีเงินมีทองแบบไม่น่าเชื่อ อยู่ๆก็มีเงินมาเอง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโบสถ์ของวัดศิริประสุประตินาถนี้ต้องคิดด้วยความสัตย์และศรัทธาและเชื่อถือจะมีผลดีแก่ตัวเอง
1.เกิดวันอาทิตย์
|
อะ
วิช สุ นัส สา นุต ติ
|
ชื่อคาถาพระนารายณ์แปลงรูป
ใช้ทางเมตตามหานิยม สวดวันละ 6 จบ
|
2.เกิดวันจันทร์
|
อะ
ระ ชา ดะ ตะ ระ กา
|
ชื่อคาถากระทู้
7 แบก ใช้ทางคงกระพัน สวดวันละ 14 จบ
|
3.เกิดวันอังคาร
|
ติ
หัง จะ โต โร ถิ นัง
|
ชื่อคาถาฝนเสน่หา
ใช้ทางเมตตามหานิยม สวดวันละ 8 จบ
|
4.เกิดวันพุธ
กลางวัน
|
ปิ
สัม ระ โล ปุ สัต พุท
|
ชื่อคาถาพระนารายณ์เลื่อนสมุทร ใช้เสกปูนสูญผี สวดวันละ 17 จบ
|
5.เกิดวันพุธ
กลางคืน
|
คะพุท
ปัน ทู ธัม วะคะ
|
ชื่อคาถาพระนารายณ์พลิกแผ่นดิน
ใช้ทางแก้ความผิด สวดวันละ 12 จบ
|
6.เกิดวันพฤหัสบดี
|
ภะ
สัม สัม วิ สะ เท ภะ
|
ชื่อคาถาพระนารายณ์ครึ่งไตรภพ
ใช้ทางเมตตามหานิยม สวดวันละ 16 จบ
|
7.เกิดวันศุกร์
|
วาโธ
โน อะ ระ มะ วา
|
ชื่อคาถาพระนารายณ์เจ้าสวมหิมพานต์ ใช้ทางเมตตามหานิยม สวดวันละ 21 จบ
|
8.เกิดวันเสาร์
|
โส
มา นะ กะ ริ ถา โธ
|
ชื่อคาถาพระนารายณ์ถอดจักร
ใช้ทางแก้ถอนคุณไสย สวดวันละ 10 จบ
|
สำหรับท่านใดที่ต้องการพิมพ์แจก สามารถดาวน์โหลดได้จาก link นี้ค่ะ
โดยการ copy link ที่อยู่ด้านลงนี้แล้วไปใส่ตรงช่อง Url (ช่องที่เราจะค้นหาเว็บค่ะ) จากนั้นทำการ save ไฟล์ได้เลยค่ะ
https://drive.google.com/open?id=0B8fMK6z4jksqc0FHV2RLVm5FbVU
หรือ
https://drive.google.com/file/d/0B8fMK6z4jksqc0FHV2RLVm5FbVU/view?usp=sharing
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น