วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2559

ประวัติท้าวหิรัญฮูพนาสูรย์ (ฮู) รพ.พระมงกุฎเกล้า


ประวัติท้าวหิรัญฮูพนาสูรย์ (ฮู)




ประวัติท้าวหิรัญฮูพนาสูรย์ (ฮู)

ถ้าท่าน ได้เดินทางเข้าไปภายในรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือพระราชวังพญาไทเดิม ซึ่งสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จ  พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.6) อาคารต่างๆล้วนแล้วแต่สร้างเป็นแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก ที่ได้แผ่อิทธิพลเข้ามาในช่วงเวลาสมัยนั้น ทำให้ดูโดดเด่นสง่างาม ทันสมัยตั้งแต่ครั้งอดีตจวบกระทั่งปัจจุบันนี้ก็ตาม แต่เชื่อหรือไม่ว่าภายในโรงพยาลาลพระมงกุฎเกล้า หรือพระราชวังเดิมแห่งนี้ เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่พึ่งทางใจของบรรดาคนไข้ในโรงพยาบาล และประชาชนที่เดือดเนื้อร้อนใจนั่นคือ   ศาลท้าวหิรัญฮูพนาสูรย์ (ฮู) อสูรผู้พิทักษ์รักษาขจัดเภทภัยทั้งปวง

          ปฐมเหตุของการสร้างรูปท้าวหิรัญฮูพนาสูรย์ (ฮู) นั้น สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชการที่ 6) โดยมีเรื่องอยู่ว่า เมื่อปี พ.ศ. 2449 ในระหว่างที่พระองค์ยังมิได้เถลิงถวัลย์ราชสมบัติ ยังดำรงพระอิสริยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมงกุฎราชกุมาร พระองค์ได้เสด็จประภาสมณฑลพาชัย ไปเมืองสวรรค์โลก และได้ผ่านไปเมืองอุตรดิตถ์ ซึ่งในสมัยนั้นยังมีสภาพเป็นป่าดงดิบ ปรากฏว่าบรรดาผู้ติดตามเสด็จพระราชดำเนินมีความหวาดกลัวเภทภัยต่างๆ รวมทั้งไข้ป่าที่จะเกิดขึ้น เมื่อถึงเวลาประทับบรรดาข้าราชบริพารต่างๆ ก็ช่วยกันจัดสร้างพลับพลาขึ้น เพื่อเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ และในคืนนั้นเองในพลับพลา      ที่ประทับพระองค์ได้ทรงพระสุบินนิมิตไปว่า ได้มีชายผู้หนึ่งมีร่างกายกำยำใหญ่โต ผิวกายคล้ำ นุ่งผ้าเกี้ยว มีลายเชิงสีแดง คาดรัดเอว มีอาภรณ์ประดับ ที่ตัวไม่ได้สวมเสื้อ แต่สวมชฎา เดินเข้ามาหาพระองค์อย่างสง่าผ่าเผยแต่เต็มไปด้วยความอ่อนน้อม ชายผู้นั้นได้เดินมาหยุดยืนอยู่ตรงปลายพระบรรทมแล้วกราบทูลว่า ตนเองนั้นมีนามว่า ฮู เป็นอสูรชาวป่าที่ยึดมั่นในสัมมาปฏิบัติมีความศรัทธาในพระองค์ จะขอเป็นข้าราชบริพาร และขอติดตามเสด็จไปทุกหนทุกแห่งเพื่อพิทักษ์รักษาแทบเบื้องยุคคลบาทมิให้ภัยตรายทั้งปวง   กล้ำกลายพระองค์ และได้กราบทูลต่อไปว่าพระผู้เป็นเจ้าในสรวงสวรรค์ได้ใช้ให้ข้าพระพุทธเจ้ามาอยู่ประจำพระองค์ เพราะทรงทราบว่าในสมัยของพระองค์ต้องฟันฝ่าต่อเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศมากมาย

          และได้กราบทูลถึงวิธีการที่พระองค์จะปฎิบัติต่อตนเองโดยไม่ต้องมีอะไรยุ่งยาก แต่โปรดพระราชทานสถานที่เฉพาะให้คนและให้บริโภคพระกระยาหารอย่างเดียว โดยที่พระองค์เสวยอยู่เป็นประจำเท่านั้น เมื่อได้ฟังดังนั้นแล้ว พระองค์ทรงรับสนอง     พระบรมราชโองการของเทวะรับอสูรมาเป็นข้าราชบริพาร

          ครั้นรุ่งเข้าจึงมีพระราชดำรัสสั่งให้จัดธูปเทียน และเครื่องโภชนาการไปเซ่นสังเวยริมพลับพลาที่ประทับในป่า และในเวลาเสวยค่ำ ทุกๆวัน ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แบ่งพระกระยาหารจากเครื่องต้นไปเซ่นสรวงเสมอๆ ปรากฎว่าบรรดาข้าราชบริพารทั้งหลายไม่มีผู้ใดเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยจากไข้ป่าแต่อย่างใด ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีความล้มป่วยกันหลายคน ส่วนผู้ที่ล้มป่วยเจ็บไข้อาการหนักก็หายเป็นปลิดทิ้ง อย่างมหัศจรรย์ยิ่ง

           นอกจากนี้ยังมีผู้อ้างว่าได้แลเห็นชายร่างกายสูงใหญ่แต่งกายประหลาด นั่งบ้างยืนบ้างอยู่ใกล้ๆ ที่ประทับหรือตามโคนต้นไม้ในระหว่างที่เสด็จประพาสตามที่ต่างๆ ซึ่งไม่ได้เห็นแค่คนเดียวเท่านั้น แต่ได้เห็นพร้อมกันตั้งหลายคนก็มี

คั้นใน พ.ศ. 2453  พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเหล้าเจ้าอยู่หัว  ได้เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ พระองค์ได้ทรงคำนึงถึงท้าวฮู อสูรผู้พิทักษ์รักษา ดังนั้นพระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้ช่างหล่อรูปทำท้าวฮูเป็นเนื้อสำริด ขนาดเล็กสูง 20 ซม. ขึ้น 4 รูป เสร็จบริบูรณ์เมื่อเดือนเมษายน 2454 โดยท้าวหิรัญพนาสูรย์ที่ทรงสร้างข้นนี้ทำเป็นรูปคนยืน สวมชฎาทรงเทริดอย่างไทยโปราณ และที่มือขวาถือไม้ท้าวเป็นเครื่องประดับยศ  จากนั้นได้ทรงรับสั่งให้เจ้าพนักงาน จัดเครื่องสังเวยเซ่นไหว้ทุกรูป

          พระองค์ได้ทรงนำรูปหล่อท้าวหิรัญพนาสูรย์นี้แยกย้ายไปประดิษฐานที่ต่างๆ คือ ไปประดิษฐานไว้ที่หน้ารถยนต์พระที่นั่ง  เนเปีย ประดิษฐานไว้ข้างพระที่นั่งในห้องบรรทม (ในเวลาต่อมารูปหล่อท้าวหิรัญ ฮู ได้ตกทอดไปอยู่หลายคน จนในที่สุดได้ถูกนำมาประดิษฐานไว้ให้คนไข้สักการะบูชาไว้บนศาลเพียงตาเล็กๆ ตั้งอยู่บริเวณตึงรังสีหรือตึกพระที่นั่งอุดมวนาภรณ์เดิม)

          ต่อมาภายหลังได้มีการสร้างพระราชวังพญาไทขึ้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระราชดำริที่จะให้มีการตั้งศาลเทพารักษ์ และต้องการให้ท้าวหิรัญพนาสูรย์ เป็นเทพารักษ์ประจำวังพญาไท พระองค์ได้ทรงระลึกถึงนายดาบมหาดเล็กรักษาพระองค์ที่มีร่างกายกำยำสูงใหญ่แข็งแรง จึงโปรดเกล้าฯให้นำตัวนายดาบไปให้พระยาอาทรจรศิลป์ (ม.ล.ช่วง กุญชร)

ศาลท้าวหิรัญฮูพนาสูรย์

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อาระหะโต สัมมา สัมพุธธัสสะ (สวด 3 จบ)

คาถาบูชาท้าวหิรัญฮูพนาสูรย์ (เทพอสูรดงพญาเย็น) จุดธูป 16 ดอก

ระหินะ ภูมาสี ภะระติ นิรันตะรัง ลาภะสุขัง ภะวันตุเม (สวด 9 จบ)

ผู้ใดสวดบูชาประจำ ป้องกันภัย มีโชคลาภ ค้าขายดี มีอำนาจ หายจากโรคภัยไข้เจ็บ ร่มเย็นเป็นสุขตลอดกาลฯ

(เมื่อท่านสำเร็จผลควรถวายสังฆทานอุทิศให้ท้าวหิรัญฮูพนาสูรย์)

สิ่งที่ควรถวายหิรัญฮูพนาสูรย์

บายศรีพรหม บายศรีเทพ  บายศรีปากชาม หมูหนาม (ขนุน) มะพร้าวอ่อน 2 ลูก กล้วยน้ำว้า 1 หวี

ดาวเรือง 9 พวง สัปปะรด 1 ลูก

ศาลท้าวหิรัญฮูพนาสูรย์ ตั้งอยู่หลังโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า กรุงเทพมหานคร

พระคาถาบูชา พ่อ ร.5 (ธูป 9 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ)

พระสยามมิน ทะโร วะโร              อัตตัง พุทธะสังมิ  ทิติ อรหัง

วะรังพุทโธ  นะโมพุทธายะ             ปิโยเทวามนุสานัง

ปิโย พรหมานะ มุตตะโม               ปินัน ทริยัง นะมามิหัง

สมัยนี้เปากาลิยุค ณ วัดศิริประสุประดินาถ เมืองกัดมันดุ ประเทศเนปาล ณ ที่พระพุทธเจ้าประสูตินั้นเอง ที่วัดศิริประสุประดินาถ มีสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้เกิดขึ้น วันหนึ่งในโบสถ์ของวัดศิริประสุประดินาถ ได้มีหลวงพ่อองค์หนึ่งได้สวดมนต์อยู่ในโบสถ์ของวัด ในเวลานั้นมีงูตัวหนึ่งได้เลื้อยออกมาจากหน้าพระพุทธณูปในโบสถ์ หลวงพ่อได้เห็นงูตัวนั้นก็เกิดอาการกลัว หลังจากนั้นงูก็ได้กลายเป็นมนุษย์ในรูปของพราหมณ์ แล้วก็พูดกับหลวงพ่อว่า เจ้าไม่ต้องกลัวและตกใจ เจ้าจงฟังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าคือพญานาคราช และได้มาจุติ ณ ที่แห่งนี้ เพื่อบำบัดปัดเป่าความชั่วร้ายและคนบาปคนที่กระทำกรรมไว้มาก จะให้พินาศตายไปจากโลกนี้ และเจ้าจงประกาศให้คนรู้ทั่วไปว่า ผู้ใดนำเรื่องของข้าพเจ้าไปพิมพ์แจก 1,000 ใบ ภายใน 15-30 วัน มันผู้นั้นจักมีโชคลาภ มีความสุข ความเจริญ คิดสิ่งใดสมความปรารถนาทุกประการ และผู้ใดได้รู้ได้อ่านอย่างคิดว่าเป็นการหลอกลวงหรือไม่เชื่อ และผู้ใดคิดพิมพ์แจก  อย่างคิดพิมพ์ผลัดวันประกันพรุ่ง (หรือเก็บไว้สวดมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว)

          จากนั้น หลวงพ่อองค์นั้นก็ได้พิมพ์แจก 1,000 ใบ หลักจากนั้น 3-4 วันเท่านั้น ท่านสำเร็จวิชาต่างๆ คุณโกบิน ประสาทศุปตา ได้พิมพ์แจก 1,000 ใบ เขาก็ได้เงินได้ทองที่ผู้คนหยิบยืมเขาไปมาคืน อีกรายหนึ่งก็พิมพ์แจก 500 ใบ เขาก็ถูกล็อตเตอรี่ 1 ล้านบาท    อีกรายหนึ่งคนถีบสามล้อ ก็พิมพ์แจก 3-4 วัน เขาก็หางานทำได้เป็นงานที่ดี และอีกรายได้อ่านได้รู้ก็ไม่เชื่อเลยฉีกทิ้ง หลังจากนั้นได้ประมาณ 2-3 วัน ลูกเขาก็ตาย อีกรายหนึ่งได้รู้ได้อ่านแล้วคิดพิมพ์แจก แต่ผลัดวันประกันพรุ่งจนเลยกำหนดผู้นั้นเป็นพ่อค้า ทำการค้าก็ขายทุนแล้วพ่อเขาก็มาตายจากไปอีกด้วย และอีกรายหนึ่งก็พิมพ์จาก 1,000 ใบ ไม่กี่วันเขาก็มีเงินมีทองแบบไม่น่าเชื่อ อยู่ๆก็มีเงินมาเอง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโบสถ์ของวัดศิริประสุประตินาถนี้ต้องคิดด้วยความสัตย์และศรัทธาและเชื่อถือจะมีผลดีแก่ตัวเอง

1.เกิดวันอาทิตย์
อะ วิช สุ นัส สา นุต ติ
ชื่อคาถาพระนารายณ์แปลงรูป ใช้ทางเมตตามหานิยม สวดวันละ 6 จบ
2.เกิดวันจันทร์
อะ ระ ชา ดะ ตะ ระ กา
ชื่อคาถากระทู้ 7 แบก ใช้ทางคงกระพัน สวดวันละ 14 จบ
3.เกิดวันอังคาร
ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง
ชื่อคาถาฝนเสน่หา ใช้ทางเมตตามหานิยม สวดวันละ 8 จบ
4.เกิดวันพุธ กลางวัน
ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท
ชื่อคาถาพระนารายณ์เลื่อนสมุทร  ใช้เสกปูนสูญผี สวดวันละ 17 จบ
5.เกิดวันพุธ กลางคืน
คะพุท ปัน ทู ธัม วะคะ
ชื่อคาถาพระนารายณ์พลิกแผ่นดิน ใช้ทางแก้ความผิด สวดวันละ 12 จบ
6.เกิดวันพฤหัสบดี
ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ
ชื่อคาถาพระนารายณ์ครึ่งไตรภพ ใช้ทางเมตตามหานิยม สวดวันละ 16 จบ
7.เกิดวันศุกร์
วาโธ โน อะ ระ มะ วา
ชื่อคาถาพระนารายณ์เจ้าสวมหิมพานต์  ใช้ทางเมตตามหานิยม สวดวันละ 21 จบ
8.เกิดวันเสาร์
โส มา นะ กะ ริ ถา โธ
ชื่อคาถาพระนารายณ์ถอดจักร ใช้ทางแก้ถอนคุณไสย สวดวันละ 10 จบ
  
สำหรับท่านใดที่ต้องการพิมพ์แจก สามารถดาวน์โหลดได้จาก link นี้ค่ะ 
โดยการ copy link ที่อยู่ด้านลงนี้แล้วไปใส่ตรงช่อง Url (ช่องที่เราจะค้นหาเว็บค่ะ) จากนั้นทำการ save ไฟล์ได้เลยค่ะ

https://drive.google.com/open?id=0B8fMK6z4jksqc0FHV2RLVm5FbVU 

หรือ
 https://drive.google.com/file/d/0B8fMK6z4jksqc0FHV2RLVm5FbVU/view?usp=sharing

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น